นับวันก็ยิ่งใกล้เข้ามาแล้วกับเทศกาลปีใหม่ เรียกได้ว่าเป็นช่วงเวลาแห่งการนับถอยหลังเพื่อต้อนรับสิ่งใหม่ๆ และทิ้งสิ่งเก่าๆไว้ที่ปีนี้ สำหรับบางบริษัทก็ได้มีการจัดงานเลี้ยงงานรื่นเริงเพื่อเสริมสร้างขวัญและกำลังใจให้กับเหล่าพนักงานได้ผ่อนคลายหายเครียดกันไปบ้าง ซึ่งแน่นอนว่า ปีใหม่ ในแต่ละปี แต่ละบริษัทก็มีจัดงานเลี้ยงฉลองปีใหม่ แตกต่างกันไปบ้างก็มีเกมปีใหม่ มาให้พนักงานได้ร่วมลุ้นไปกับการจับรางวัล หรือจะเป็นกิจกรรมอื่นๆอีกมากมาย
เกมปีใหม่ สำหรับจัดงานเลี้ยงฉลองปีใหม่
1.เกมโยนโบว์ลิ่ง สนุกๆ
อุปกรณ์ : ขวดพลาสติกใส สีน้ำ พู่กัน ลูกบอล
วิธีเล่น : ทาสีขวดพลาสติกด้านนอกทำเป็นลายสวยๆและนำมาวางเป็นรูปสามเหลี่ยมห่างๆกันบนสนามหญ้าใช้ลูกบอลกลิ้งให้โดนขวดใครหมดก่อนโดยใช้ลูกบอลน้อยสุด ชนะ
2.เกมแนะนำชื่อตัวเองคล้องกับของกิน
อุปกรณ์ : ห้องอบรม คนอบรม ผู้นำ
วิธีการเล่น : แนะนำชื่อตัวเอง พร้อมชื่อของกินที่คล้องจองกัน เช่น ฉันชื่อ สมศรี เอากีวี่ มาฝากคนถัดไปแนะนำชื่อ เช่น ผมชื่อ สมชาย เอากระชาย มาฝาก ใครบอกชื่อพร้อมของฝากไม่คล้องจองกัน หรือซ้ำกับเพื่อน ให้ออกมาด้านนอกถ้าออกมาด้านนอก ให้บอกชื่อเพื่อน ที่แนะนำตัวเองไปเมื่อสักครู่ ให้ได้อย่างน้อย 3 คน ถ้าบอกผิด หรือบอกไม่ได้ ให้เพื่อนๆลงโทษ เช่น เต้น หรือ ร้องเพลง และคนที่เหลือให้แนะนำชื่อจนครบ
3.เกมปาร์ตี้ คาบแอปเปิ้ลจากน้ำในถัง
อุปกรณ์ : ถังน้ำ แอปเปิ้ล
วิธีทำ : นำถังน้ำใส่น้ำจนเต็มนำแอปเปิ้ลใส่ในน้ำ
วิธีเล่น : คาบแอปเปิ้ลออกจากถังน้ำ ใครคาบได้มากสุด ชนะ
4.เกมพาฟองน้ำข้ามฟากโดยไม่ใช้มือ
อุปกรณ์ : ฟองน้ำ
วิธีเล่น : แบ่งกลุ่ม 4–5 กลุ่ม กลุ่มละเท่าๆกัน วางฟองน้ำไว้ที่หัวแถวจากนั้นให้นอนบนพื้นสนามหญ้า ใช้เท้าคีบส่งฟองน้ำให้เพื่อนคนต่อไปทำไปเรื่อยๆจนสุดแถวฟองน้ำตกระหว่างทาง ให้กลับไปเริ่มต้นใหม่ โดยจะใช้เวลาไม่เกิน 10 นาทีกลุ่มไหนช้าสุด โดนทำโทษ สนุกๆ
5.เกมเก้าอี้ดนตรีง่ายๆแต่สนุกสนาน
อุปกรณ์ : เก้าอี้ น้อยกว่าจำนวนคนอย่างน้อย 1 ตัว เครื่องเสียง
วิธีเล่น : วางเก้าอี้เป็นรูปวงกลม ให้คนเดินรอบๆพอเพลงหยุด ให้หยุดเดินและนั่งลงบนเก้าอี้ใครไม่ได้นั่งเก้าอี้ต้องออกจากเกมหลังจากนั้น เอาเก้าอี้ออก 1 ตัว เล่นไปเรื่อยๆ จนเหลือคนชนะ 1 คน
และนี้ต้องบอกเลยว่าเป็นเกมสำหรับ ปาร์ตี้ปีใหม่ เกมปีใหม่ต้องมา มันส์แน่ปีนี้ บ้านไหนใครจัดบอกเลยว่าคุณไม่ควรที่จะพลาดเอาเกมเหล่านี้ไปจัดไว้ในงานให้คนที่มางานหรือว่าลูกหลานได้ร่วมสนุกกันภายในงาน และที่สำคัญที่จะขาดไม่ได้เลยนั่นก็คือรางวัลของผู้ชนะเพื่อที่จะเพิ่มโอกาสในการแข่งขันของผู้เล่นเพราะว่าเขานั้นมีเป้าหมายของการชนะนั่นเอง
ความเป็นมาก่อนจะมีการเฉลิมฉลองปีใหม่ ในวันที่ 1 เดือน มกราคม ของทุกปี
จริงๆแล้วนั้นการนับวันปีใหม่ของไทยก็คือวันสงกรานต์ตามวันทางจันทรคติ เมื่อเทียบกับวันทางสุริยคติ ย่อม
คลาดเคลื่อนกันไปในแต่ละปี ดังนั้นในวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 5 ปี พ.ศ.2432 ซึ่งก็ได้ตรงกับวันที่ 1 เมษายน
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงได้ถือเอาวันที่ 1 เมษายนเป็นวันขึ้นปีใหม่ของไทยนับแต่นั้นมา
เพื่อวันปีใหม่จะได้ตรงกันทุกปีเมื่อนับทางสุริยคติ แม้ว่าวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 5 ปีต่อๆมาจะไม่ตรงกับวันที่ 1
เมษายน แล้วก็ตาม ฉะนั้นแล้วจึงถือเอาเดือนเมษายนเป็นเดือนแรกของปีนับแต่นั้นมาและถึงอย่างไรก็ดีประชาชนส่วนใหญ่โดยเฉพาะตามชนบทยังคงยึดถือเอาวันสงกรานต์เป็นวันขึ้นปีใหม่อยู่ต่อมาเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองมาเป็นระบอบประชาธิปไตย ทางราชการจึงเห็นว่าวันขึ้นปีใหม่วันที่ 1 เมษายน มักจะไม่มีงานรื่นเริงอะไรมากนักและเห็นสมควรที่จะฟื้นฟูขึ้นมาใหม่ จึงได้ประกาศให้มีงานรื่นเริงวันขึ้นปีใหม่ในวันที่ 1 เมษายน 2477 ขึ้นในกรุงเทพฯเป็นครั้งแรกจนแพร่หลายออกไปต่างจังหวัดในปีต่อๆมา โดยในปี พ.ศ. 2479 ก็ได้มีการจัดงานปีใหม่ทั่วทุกจังหวัดมีชื่อทางราชการ “วันตรุษสงกรานต์” นั่นเอง
เหตุผลเปลี่ยนวันขึ้นปีใหม่จาก 1 เมษายน เป็น 1 มกราคม
การพิจารณาเปลี่ยนวันขึ้นปีใหม่อีกครั้งหนึ่งซึ่งได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาโดยมีหลวงวิจิตรวาทการ เป็นประธานคณะกรรมการและที่ประชุมก็ได้มีมติเป็นเอกฉันท์ให้เปลี่ยนวันขึ้นปีใหม่เป็นวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2484 ในวันที่ 24 ธันวาคม ในสมัยคณะรัฐบาลของ จอมพล ป. พิบูลสงคราม โดยเหตุผลสำคัญก็คือ
- เป็นการไม่ขัดกับหลักพุทธศาสนาในด้านการนับวัน เดือน และการร่วมฉลองปีใหม่ด้วยการทำบุญ
- เป็นการเลิกวิธีนำเอาลัทธิพราหมณ์มาคร่อมศาสนาพุทธ
- ทำให้เข้าสู่ระดับสากลที่ใช้อยู่ในประเทศทั่วโลก
- เป็นการฟื้นฟูวัฒนธรรม คตินิยม และจารีตประเพณีของชาติไทย
ตั้งแต่นั้นมาวันขึ้นปีใหม่ของไทยจึงตรงกับวันที่ 1 มกราคมของทุกปี เหมือนดังเช่นวันขึ้นปีใหม่ของประเทศอื่นๆทั่วโลกจนถึงทุกวันนี้